ศูนย์รวมแพคเกจทัวร์ต่างประเทศทุกเส้นทางทั่วโลก ทัวร์ยุโรป ...



[pic]

|16 ก.พ. 61 |สนามบินสุวรรณภูมิ (ประเทศไทย) |ศุกร์ |

|08.30 น. |พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ขาออก อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศเคาน์เตอร์ P สายการบินแอร์ ฟรานซ์ | |

| |เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระและการเช็คอิน | |

|11.30 น. |ออกเดินทางโดยสายการบินบินแอร์ ฟรานซ์ เที่ยวบินที่ AF165 |(ใช้เวลาบิน 11.30 ชั่วโมง) |

|18.25 น. |ถึงสนามบินชาร์ล เดอร์ โกลด์ (ประเทศฝรั่งเศส) เพื่อรอเปลี่ยนเที่ยวบิน | |

|23.35 น. |ออกเดินทางสู่นครริโอ เดอจาเนโร ประเทศบราซิล สายการบินบินแอร์ ฟรานซ์ เที่ยวบินที่ AF442 |(ใช้เวลาบิน 23.35 ชั่วโมง) |

|17 ก.พ. 61 |กรุงเทพฯ - ปารีส (ฝรั่งเศส) - ริโอ เดอจาเนโร (บราซิล) |เสาร์ |

|หมายเหตุ |ทางบริษัทได้เตรียมการเดินทางของคณะทัวร์ก่อน 30 วัน โดยซื้อตั๋วเครื่องบิน, เช่ารถโค้ช, จองที่พัก, ร้านอาหาร | |

| |สถานที่เข้าชมต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้าให้กับกรุ๊ปทัวร์ กรณีที่เกิดเหตุการณ์ อาทิ การยกเลิกเที่ยวบิน, การล่าช้าของสายการบิน, | |

| |การพลาดเที่ยวบิน (ขึ้นเครื่องไม่ทัน), การนัดหยุดงาน, การจลาจล, ภัยพิบัติ, การถูกปฏิเสธการเข้าเมือง | |

| |ทำให้การเดินทางล่าช้า หรือเหตุสุดวิสัยอื่น ๆ ไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายตามโปรแกรมได้ หัวหน้าทัวร์ | |

| |มีสิทธิ์ในการเปลี่ยนโปรแกรม และไม่สามารถคืนเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ชำระแล้ว เพราะทางบริษัทฯ ได้ชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ | |

| |ล่วงหน้าแล้ว และหากมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เกิดขึ้นนอกจากในรายการทัวร์ หัวหน้าทัวร์จะแจ้งให้ท่านทราบ เพราะเป็นสิ่งที่ทางบริษัทฯ | |

| |มิอาจรับผิดชอบได้ | |

|08.10 น. |ถึงท่าอากาศยานนานาชาติแอนโตนิโอ คาร์ลอส โจบิม นครริโอ เดจาเนโร ประเทศบราซิล เมืองริโอ เดจาเนโร หรือ |[pic][pic] |

| |“แม่น้ำแห่งเดือนมกราคม” ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ด้วยชายหาดชื่อดัง โคปาคาบานา และ อีปาเนมา | |

| |ที่คนทั่วโลกกล่าวขวัญถึง รวมถึงเทศกาลคาร์นิวัล เทศกาลรื่นเริงประจำปีของชาวแซมบ้า | |

| |ที่โลกต้องตะลึงไปกับขบวนพาเหรดอันอลังการที่สุดที่โลกเคยมีมา นำท่านผ่านย่านชุมชนแออัดที่ ฟาเวลา (Favela) | |

| |เป็นภาพของบ้านเรือนปลูกไล่กันไปบนภูเขาหลายร้อยหลายพันหลัง ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ | |

| |นักเตะชื่อดังหลายคนก็เติบโตมาจากที่นี่ทั้ง โรนัลโด, โรนัลดินโญ | |

|12.00 น. |รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |Chinese |

|บ่าย |หลังอาหาร นำคณะเดินทางเข้าสู่ที่พัก | |

|17.00 น. |รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |Local |

| |นำคณะเดินทางเข้าสู่ Sambodromo ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานคาร์นิวัล ซึ่งเป็นเทศกาลรื่นเริงประจำปีของชาวแซมบ้า | |

| |ที่โลกต้องตะลึงไปกับขบวนพาเหรดอันอลังการที่สุดที่โลกเคยมีมา พาท่านชมขบวนพาเหรดอันงดงามตระการตา | |

| |และร่วมเป็นกำลังใจให้กับผู้แข่งขันขบวนพาเหรด 6 ทีมสุดท้าย 2018 RIO CARNIVAL CHAMPION’S PARADE | |

| |(แจ้งผลการตัดสินผู้ชนะเวลาประมาณ 02.25-03.50 น.) | |

|[pic] [pic] [pic][pic] |

| |นำท่านเข้าสู่ที่พัก SOFITEL RIO DE JANEIRO IPANEMA HOTEL 5* หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน | |

|18 ก.พ. 61 |ริโอ เดจาเนโร - รูปปั้นพระเยซูคริสต์ - ซูการ์โลฟ - สนามฟุตบอลมาราคานา - ฟาเวโล |อาทิตย์ |

|08.00 น. |รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |Buffet |

|09.00 น. |นำท่านขึ้นสู่ยอดเขากอร์โกวาโด จุดหมายปลายทางฝันของนักท่องเที่ยวที่ยืนคู่กับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่มนุษย์สร้างขึ้นนั่นก็คือ |[pic] |

| |“รูปปั้นพระเยซูคริสต์” แห่งเมืองริโอ เดจาเนโร (Rio de Janeiro) สัญลักษณ์อันโด่งดังของบราซิล ถูกคัดเลือกให้เป็น 1 ใน | |

| |7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ นำคณะขึ้นกระเช้าไฟฟ้าขึ้นสู่ยอดเขาซูการ์โลฟ (Pao De Acucar) | |

| |หรือภูเขาก้อนน้ำตาลที่ตั้งอยู่เคียงข้างกับยอดเขากอร์โกวาโด แต่มีความสูงเพียงครึ่งหนึ่งของรูปปั้นพระเยซูคริสต์ | |

| |เพื่อไปชมทัศนียภาพแบบ 360 องศาของเมืองริโอ | |

|13.00 น. |รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร | |

|บ่าย |นำคณะสู่ เอสตาดิโอ โด มาราคานา สนามฟุตบอลขนาดยักษ์จุคนได้ 103,022 คน เพื่อให้ท่านได้ซื้อของที่ระลึกจากทีมบราซิล |[pic] |

| |เมืองริโอ มีสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ ต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์ที่นำเข้าจากประเทศทั้งในแถบลาตินอเมริกา อเมริกา และยุโรป | |

| |ซึ่งมีการจัดแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ และมีจุดเด่นอยู่ที่ บัววิกตอเรียขนาดใหญ่ และทิวแถวของต้นปาล์มที่ถูกไว้เป็นแนวสวยงาม | |

| |ท่ามกลางความเขียวขจี จากนั้นนำคณะเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย | |

|19.00 น. |รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |Local |

| |นำท่านเข้าสู่ที่พัก HILTON RIO DE JANEIRO COPACABANA HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |www3. |

|19 ก.พ. 61 |ริโอ เดจาเนโร - บินสู่เมืองอิกวาซู - น้ำตกอิกวาซู (ฝั่งบราซิล) |จันทร์ |

|07.00 น. |รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |Buffet |

| |หลังอาหาร นำคณะเดินทาสู่สนามบิน | |

|11.55 น. |ออกเดินทางสู่เมืองอิกวาซู โดยสายการบิน LATAM Airline เที่ยวบิน JJ4568 |(ใช้เวลาบิน 2.11 ชั่วโมง) |

| |***ไม่มีอาหารกลางวันบริการ เนื่องจากอยู่ระหว่างทำการบิน*** | |

|14.04 น. |ถึงสนามบิน Cataratas International airport รถรอรับคณะแล้วเดินทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติน้ำตกอิกวาซู 1 ใน 7 | |

| |สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกยุคใหม่ ครอบคลุมพรมแดนระหว่างประเทศอาร์เจนตินาและบราซิล | |

| |นำท่านสัมผัสความยิ่งใหญ่ของน้ำตกอิกวาซู (ฝั่งบราซิล) มีต้นกำเนิดจากแม่น้ำ อิกวาซูที่ไหลมาจากที่ราบสูงปารานา | |

| |และตกจากขอบที่ราบสูงขนาดใหญ่ลงสู่พื้นที่ราบเกินเป็นน้ำตกขนาดใหญ่มหึมา ถึงแม้น้ำตกโดยส่วนใหญ่จะอยู่ฝั่งอาร์เจนตินา |[pic] |

| |แต่ท่านสามารถสัมผัสสายน้ำตกอย่างใกล้ชิดด้วยทางเดินสะพานไม้ | |

| |ที่ออกแบบเพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้ชุ่มฉ่ำไปกับสายน้ำตกอย่างใกล้ชิดที่สุด | |

| |ละอองของสายน้ำในช่วงหน้าร้อนจะมีปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำให้ท่านได้ชม (ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะขึ้น Helicopter | |

| |ชมวิวทิวทัศน์และความยิ่งใหญ่บนมุมสูง ค่าเฮลิคอปเตอร์ 120 US$ / ท่าน กรุณาแจ้งหัวหน้าทัวร์ล่วงหน้า) | |

|19.00 น. |รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |Local |

| |นำท่านเข้าสู่ที่พัก IGUAZU GRAND Resort Spa & Casino หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน | |

|20 ก.พ. 61 |ชมน้ำตกอิกัวสุ (ฝั่งอาร์เจนตินา) - ล่องเรือชมน้ำตก - ท่องป่าร้อนชื้น |อังคาร |

|08.00 น. |รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |Buffet |

|09.00 น. |หลังอาหาร นำคณะเดินทางข้ามพรมแดนสู่ฝั่งอาร์เจนตินา นำชมน้ำตกอิกวาซู (ฝั่งอาร์เจนตินา) ฝั่งด้านนี้หนาแน่นไปด้วยป่าร้อนชื้น |[pic] |

| |และกิจกรรมในการเที่ยวชมน้ำตกอย่างมากมาย น้ำตกอิกวาซู ประกอบไปด้วยน้ำตก 275 แห่ง สูงระหว่าง 60-82 เมตร | |

| |แต่ละน้ำตกมีชื่อเรียกโดยเฉพาะ ขนาดของน้ำตกกว้างประมาณ 4 ก.ม. นับเป็นน้ำตกที่กว้างที่สุดในโลก ใหญ่กว่าน้ำตกไนแองการ่า| |

| |30 เท่า น้ำตกส่วนใหญ่อยู่ในอาร์เจนตินาราว 90% พื้นที่ป่าริมน้ำตกเป็นเขตคุ้ม ครองรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขตร้อนที่มีอยู่อย่างชุกชุม | |

| |เช่น นกไทนามัส แมวป่าโอเซล เสือจากัวร์ สมเสร็จ เพ็คคารี และสัตว์นานาชนิดอีกมากมาย เส้นทางเดินชมน้ำตกจุดสูงสุดคือ | |

| |Devil’s Throat จุดที่ท่านจะยืนเหนือน้ำตก สัมผัสละอองน้ำจากด้านบน และตื่นตาตื่นใจกับต้นกำเนิดของสายน้ำตก | |

| |จากนั้นเปลี่ยนวิวทิวทัศน์บนเส้นทางเดิน Upper Trail และ Lower Trail ที่ให้ความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป | |

|12.00 น. |รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |Local |

|บ่าย |สนุกสนานไปกับกิจกรรมที่ท่านรอคอย “ล่องเรือชมน้ำตก” เรือขนาดความจุ 30 ที่นั่ง แล่นไปตามสายน้ำจนเข้าสู่เขตม่านน้ำตก |[pic] |

| |ที่ฝ่าด่านของสายน้ำอันเชี่ยวกราก และสายน้ำตกที่ส่งเสียงกึกก้องมหึมา ที่ท่านไม่ควรพลาดกับประสบการณ์ดีๆ | |

| |ของความงามแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง สมควรแก่เวลานำคณะเดินทางกลับสู่ที่พักโรงแรม | |

|19.00 น. |รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |Local |

| |นำท่านเข้าสู่ที่พัก IGUAZU GRAND Resort Spa & Casino หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน | |

|21 ก.พ. 61 |เมืองอิกัวสุ - บินสู่ลิม่า (แวะเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศบราซิล) |พุธ |

|08.00 น. |รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |Buffet |

| |อิสระตามอัธยาศัย จนกระทั่งเวลาเช็คเอ๊าท์ | |

|11.13 น. |ออกเดินทางสู่นครลิม่า (Lima) ประเทศเปรู โดยสายการบิน LATAM Airline Brasil เที่ยวบินที่ JJ3558 |(11.13 น.-13.00 น.) |

| |(แวะเปลี่ยนเครื่องที่ท่าอากาศยานนานาชาติกัวรูลโฮส นครเซาเปาโล ประเทศบราซิล) | |

| |***ไม่มีอาหารกลางวันบริการ เนื่องจากอยู่ระหว่างทำการบิน*** | |

|13.00 น. |คณะเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกัวรูลโฮส นครเซาเปาโล ประเทศบราซิล ได้เวลาเดินทางสู่สนามบิน | |

| |เพื่อเดินทางสู่ประเทศเปรู | |

| |***ไม่มีอาหารค่ำบริการ เนื่องจากอยู่ระหว่างทำการบิน*** | |

|18.55 น. |ออกเดินทางสู่นครลิม่า โดยสายการบิน LATAM Airline Peru เที่ยวบินที่ JJ8146 |(18.55 น.-22.00 น.) |

|22.00 น. |ถึงสนามบิน Jorge Chavez International Airport ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง แล้วนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก | |

| |นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL LIBERTADOR LIMA หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |.pe |

|22 ก.พ. 61 |ลิม่า (เปรู) - คุสโก - วิหารสุริยะเทพ - ป้อมปราการอินคา |พฤหัสบดี |

|07.00 น. |รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |Buffet |

|09.15 น. |ออกเดินทางสู่เมืองคุสโก โดยสายการบิน LATAM Peru Airline เที่ยวบินที่ LA2047 (Airbus 320-200) |(ใช้เวลาในการบิน 1 ชั่วโมง 35 นาที) |

|10.50 น. |ถึงสนามบินเมืองคุสโก (Cuzco) อดีตเมืองหลวงศูนย์กลางอาณาจักรอินคา บนเทือกเขาแอนดีส ที่ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า | |

| |3,400 เมตร คุสโกเป็นเมืองที่สวยและมีเสน่ห์ในตัวเอง | |

| |อีกทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวอินคาที่เรียกกันว่า “อินคาเทรล” | |

|13.00 น. |รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |Local |

|บ่าย |เที่ยวชมเมืองคุสโก เสน่ห์เมืองเก่าผสมผสานอารยธรรมที่แตกต่าง | |

| |เมืองนี้ตั้งถิ่นฐานมาเป็นพันปีและเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดโดยชาวเผ่าอินคา เข้ามามีอำนาจโดยใช้เมืองคุสโก (ตามภาษาเกอชัว |[pic] |

| |(Quechua) ภาษาของชาวอินคาโบราณแปลว่า “สะดือของโลก”) เป็นศูนย์กลางอำนาจขยายอิทธิพลไปทั่วเทือกเขาแอนดีส | |

| |ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงสิ้นสุดลงในคริสต์ศตวรรษที่ 16 โดยการรุกรานจากสเปนในช่วงล่าอาณานิคม |[pic] |

| |ชมสถาปัตยกรรมยุคก่อนอินคา ,อินคา ,สเปน และรวมไปถึงอารยธรรมสมัยใหม่ ปลาซ่าเดออาร์มัส (Plaza de Armas) | |

| |จัตุรัสกลางเมือง แหล่งพบปะของชาวอินคา ตรงกลางเป็นสวนสาธารณะ มีน้ำพุ รูปปั้น ล้อมรอบด้วยอาคารเก่า ๆ | |

| |เรียงรายด้วยร้านค้าและร้านอาหารที่ทันสมัย บรรยากาศย้อนยุคแบบชิลล์เอ๊าท์ ชมโบสถ์แห่งเมือง Cathedral of Cusco | |

| |ก่อสร้างขึ้นในยุคอาณานิคม สถาปัตยกรรมแบบโกธิค โบสถ์แห่งนี้ก็สร้างขึ้นบนฐานของราชวังเดิมของชาวอินคาและยุคก่อนอินคา | |

| |ชมโบสถ์ซานโตโดมิงโก้ (Church of Santo Domingo) โบสถ์แห่งนี้สร้างทับลงบนศาสนสถานดั้งเดิมที่เรียกว่า โคริกันชา | |

| |(Qoricancha) วิหารแห่งสุริยา หรือ Temple of the Sun ของชาวอินคา ซึ่งเดิมเรียกว่า อินติคันชา (Inti Kancha) | |

| |หรือวิหารทองคำ ที่ชาวอินคาใช้บวงสรวงสุริยะเทพ ว่ากันว่าในยุคอินคานั้น โครงสร้างหินขนาดใหญ่ ที่ทำเป็นห้อง ๆ | |

| |เหล่านี้ฉาบทาไปด้วยทองคำล้วน ๆ แล้วพาท่านออกนอกตัวเมืองเพื่อชมโบราณสถานแซคไซวามาน (Sacsayhuaman) | |

| |อดีตป้อมปราการขนาดใหญ่ สร้างจากหินแกรนิต เรียงเข้ามุมกันหินแต่ละก้อนหนัก 90-120 ตัน ไม่มีทราบแน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง | |

| |(ก่อนยุคอินคา) และสร้างไว้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร หลักฐานทางโบราณคดีบ่งบอกว่า ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา | |

| |ปัจจุบันมีงานเทศกาลเฉลิมฉลองทุก ๆ ปีในวันที่ 24 มิถุนายน โดยมีผู้คนแต่งกายชุดพื้นเมืองออกมาเต้นรำกันอย่างงดงาม | |

|19.00 น. |รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |Local |

| |นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL LIBERTADOR CUSCO (PALACIO DEL INKA HOTEL CUSCO) หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |.pe |

|23 ก.พ. 61 |คุสโก - มาชูปิกชู (เมืองมรดกโลก) - คุสโก |ศุกร์ |

|06.00 น. |รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |Buffet |

|07.00 น. |ออกเดินทางสู่มาชู ปิกชู ได้รับการโหวตให้เป็น New7Wonders of the world และ ได้จัดอันดับแลนด์มาร์กที่สำคัญที่สุดในโลก | |

| |ทั้งความยิ่งใหญ่ และความสำคัญในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมโบราณของชาวอินคา มาชูปิกชู เมืองสาบสูญแห่งอินคา |[pic] |

| |นครกลางฟ้าแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในเทือกเขาแอนเดส ประเทศเปรู เนื้อที่ประมาณ 13 ตร.กม.ของหุบเขาอุรุบัมบ้า ที่ความสูง 2,430 | |

| |เมตรระดับน้ำทะเล เป็นอาณาจักรที่เคยเจริญรุ่งเรืองในอดีต ถูกทิ้งร้างเอาไว้และถูกปกคลุมอยู่ด้วยป่าดงดิบนานนับศตวรรษ | |

| |นักผจญภัยชาวอเมริกัน ฮีราม บิงแฮม ได้ถูกพาไปหามันในปีค.ศ.1911 โดยเด็กหนุ่มท้องถิ่นวัยเพียง 10 ขวบ ปัจจุบันเชื่อกันว่า | |

| |ที่นี่เป็นที่พักผ่อนของชนชั้นสูงชาวอินคา คาดว่าสร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 1450 โดยจักรพรรดิปาชากูตีของชาวอินคา มาชูปิกชู | |

| |ถูกปล่อยทิ้งไว้นับร้อยปี เพราะชาวสเปนได้เข้ามาล่าอาณานิคม และฆ่าชาวเปรูและชาวอินคา เมืองอินคาเลยถูกปล่อยร้างไว้ | |

| |จนกระทั่งฮีรามมาค้นพบ แล้วแพร่กระจายข่าวไปทั่วโลก | |

|12.00 น. |รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |Buffet |

|13.00 น. |นำท่านเข้าชมนครที่สาบสูญ "The Lost City of the Incas" |[pic] |

| |โบราณสถานถูกสร้างเป็นลักษณะขั้นบันไดไล่ลงมาตามความชันของหุบเขา แต่ละชั้นสูง 3-4 เมตร มีจำนวนทั้งหมด 40 | |

| |ชั้นซึ่งถูกเชื่อมถึงกันด้วยบันไดกว่า 3,000 ขั้น และมีสิ่งก่อสร้างซึ่งสร้างด้วยหินกว่า 200 หลัง สมมติฐานจากนักสำรวจและผู้ค้นพบ | |

| |เปิดเผยว่า มาชูปิกชู เคยถูกปกครองโดยนักบวชของลัทธิบูชาสุริยะ | |

| |และมีการทำพิธีถวายหญิงสาวเป็นเครื่องสังเวยแก่พระเจ้าของพวกเขา | |

| |ที่นี่ยังเป็นป้อมปราการสุดท้ายของชาวอินคาที่ต่อสู้กับชาวสเปนอีกด้วย อีกสมมติฐานหนึ่งว่า มาชูปิกชู | |

| |น่าจะเป็นที่พักตากอากาศสำหรับเชื้อพระวงศ์ในฤดูร้อน ประกอบด้วยวัง มีวิหารและคฤหาสน์ ล้อมอยู่รอบ ๆ | |

| |รวมไปถึงที่พักของผู้ทำงานในสถานที่นั้น ๆ ด้วย คาดว่าน่าจะมีผู้อาศัยอยู่ไม่เกิน 750 คน จนกระทั่งถูกชาวสเปนมายึดดินแดนในอีก | |

| |80 ปีต่อมา | |

|18.00 น. |คณะเดินทางกลับเมืองคุสโก้ | |

|19.00 น. |รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |Local |

| |นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL LIBERTADOR CUSCO (PALACIO DEL INKA HOTEL CUSCO) หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |.pe |

|24 ก.พ. 61 |คุสโก - ลิม่า - เที่ยวชมเมืองหลวงของเปรู |เสาร์ |

|07.00 น. |รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |Buffet |

|08.00 น. |หลังอาหาร นำคณะออกเดินทางสู่สนามบิน | |

|10.20 น. |ออกเดินทางสู่เมืองลิม่า เมืองหลวงของประเทศเปรู โดยเที่ยวบินที่ LA2004 (Airbus 319) |(ใช้เวลาในการบิน 1 ชั่วโมง 30 นาที) |

|11.50 น. |ถึงสนามบินเมืองลิม่า รถปรับอากาศรอรับคณะแล้วออกเดินทางสู่ภัตตาคาร | |

|12.30 น. |รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |Chinese |

|บ่าย |เที่ยวกรุงลิมา (Lima) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเปรู ศูนย์กลางการขนส่ง การเงิน อุตสาหกรรม | |

| |และวัฒนธรรมของประเทศอีกด้วย ลิมาตั้งขึ้นโดยฟรันซิสโก ปีซาร์โร ผู้พิชิตชาวสเปน ในปีค.ศ. 1535 โดยให้ชื่อว่า |[pic] |

| |นครแห่งกษัตริย์ (City of Kings) ลิมา เป็นเมืองหลวงมรดกโลกแห่งเปรู และนครหลวงที่สำคัญที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ | |

| |ประเทศเปรูมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของอเมริกาใต้ และเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำอเมซอน | |

| |เป็นประเทศที่มีความหลากหลายในด้านชาติพันธุ์ ชนพื้นเมืองเชื้อสายสเปนผสมกับอินเดียนแดง, อัฟริกา, จีน, | |

| |และญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งรกราก นำวัฒนธรรมมาเผยแพร่อย่างลึกซึ้ง นำท่านเข้าสู่ศูนย์กลางประวัติศาสตร์เมืองลิมา" (Historic | |

| |Centre of Lima) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองลิมา ประกอบไปด้วยเหล่าอาคาร รวมไปถึงสิ่งก่อสร้างที่มีความสำคัญหลายแห่ง | |

| |ซึ่งต่อมาได้ถูกประกาศให้เป็นมรดกโลก ในปี 1988 ปลาซา มายอร์ (Plaza Mayor) จัตุรัสเก่าแก่จุดกำเนิดของเมือง | |

| |รอบจัตุรัสนั้นเรียงรายไปด้วยเหล่าอาคารที่มีสำคัญ อาทิทำเนียบประธานาธิบดี, วังอาร์คบิชอป (Archbishop Palace), | |

| |วิหารแห่งลิมา (Lima Cathedral) วิหารคาทอลิกที่สร้างขึ้นเมื่อครั้งสเปนเข้ามายึดครอง, ศาลาเทศบาลเมือง | |

| |สร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม แล้วนำคณะเข้าสู่ที่พักโรงแรมย่านมิราฟอเรส (Miraflores) เมืองตากอากาศที่สุดแสนโรแมนติค| |

| |ริมมหาสมุทรแปซิฟิก ร่มรื่นด้วยสวนสาธารณะและชายหาดที่งดงาม | |

|19.00 น. |รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |Local |

| |นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL LIBERTADOR LIMA หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |.pe |

|25 ก.พ. 61 |ลิม่า - บัวโนสไอเรส |อาทิตย์ |

|08.00 น. |รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม |Buffet |

|15.50 น. |ออกเดินทางสู่เมืองบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนติน่า โดยเที่ยวบินที่ LA7901 (Airbus 320) |(ใช้เวลาบิน 4.3ชั่วโมง) |

| |***ไม่มีอาหารกลางวันบริการ เนื่องจากอยู่ระหว่างทำการบิน*** | |

|17.45 น. |ถึงสนามบิน Aeroparque Internacional Jorge Newbery | |

| |หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเดินทางสู่ภัตตาคาร | |

|19.00 น. |รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |Chinese |

| |นำท่านเข้าสู่ที่พัก SHERATON BUENOS AIRES HOTEL and | |

| |CONVENTION CENTER หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน | |

|26 ก.พ. 61 |บัวโนสไอเรส - ลาโบกา - ปลาซา มายอร์ - ซาน เตลโม - ชมเต้นลำแทงโก้ |จันทร์ |

|08.00 น. |รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม |Buffet |

|09.00 น. |นำคณะเที่ยวชมกรุงบัวโนสไอเรส ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำริโอ เดอ ลาพลาตา (Rio de la Plata) ย่านลาโบกา (La Boca) | |

| |จุดกำเนิดของทีมฟุตบอลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก โบคาจูเนียร์ และนักฟุตบอลระดับโลกอย่าง ดิเอโก้ มาราโดนา |[pic][pic] |

| |เป็นย่านที่มีสีสันมากที่สุด ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง (กราฟฟิตี) ถนนคนเดิน, สโมสรแทงโก เข้าสู่ปลาซ่า มายอร์| |

| |ที่ตั้งของทำเนียบประธานาธิบดี หรือที่มีชื่อเรียกว่า “ลา กาซาโร ซาดา” (casa rosada) แปลว่าบ้านสีชมพู ถนน Avenida 9 | |

| |de Julio ที่ตั้งของเสาโอบิลิกส์ ถูกสร้างขึ้นในปี 1936 เป็นสถานที่ที่ธงอาร์เจนตินาถูกเชิญสู่ยอดเสาเป็นครั้งแรก | |

| |มหาวิหารโรเซอแรตต้า (The Metropolitan Cathedral) วิหารแห่งนี้เป็นที่ประทับของ คาร์ดินัลฆอร์เก้ มาริโอ้ แบร์กอกลิโอ| |

| |หรือ พระสันตะปาปาฟรานซิสที่ 1 แห่งคริสตจักร ก่อนที่จะย้ายไปประทับที่วังวาติกัน | |

|12.00 น. |รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |Chinese |

|13.00 น. |นำท่านไปชมย่าน San Telmo เป็นชุมชนเก่าแก่ที่สุดในเมืองหลวงแห่งนี้ แหล่งรวมของศิลปะ หัตถกรรมชาวพื้นเมืองและของโบราณ|[pic] |

| |รวมไปถึงการแสดงพื้นเมืองและการดนตรี การเต้นรำจังหวะ Tango (แทงโก้) และความสนุกสนานของนักท่องเที่ยวยามราตรี | |

| |แวะชมแหล่งช้อปปิ้งที่หรูหราและมีชื่อเสียงที่สุดของเมืองคือ แกลลอรี่แปซิฟิก สถาปัตยกรรมแบบบองมาเช่ในฝรั่งเศส | |

| |ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และจุดที่โดดเด่นที่สุดคือ ภาพจิตรกรรมเพดานภายในโดมขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 450 | |

| |ตร.กม. อิสระให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งร้านขายสินค้ากว่า 150 ร้าน ในพื้นที่กว่า 11,000 ตร.ม. | |

|19.00 น. |รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พร้อมชมการเต้นแทงโก้ ศิลปะการเต้นรำนี้ถือเป็นเอกลักษณ์ของชาวอาร์เจนตินา |Chinese |

| |ที่ท่านไม่ควรพลาดชม | |

| |นำท่านเข้าสู่ที่พัก SHERATON BUENOS AIRES HOTEL and | |

| |CONVENTION CENTER หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน | |

|27 ก.พ. 61 |บัวโนสไอเรส - บินสู่เอล คาลาฟาเต (El Calafate) - ปาตาโกเนีย |อังคาร |

|06.00 น. |รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม |Breakfast Box |

|08.15 น. |ออกเดินทางสู่เอล คาลาฟาเต โดยสายการบิน Aerolíneas Argentinas โดยเที่ยวบินที่ AR1872 (Boeing 737-800) |(ใช้เวลาบิน 4.45 ชั่วโมง) |

|13.00 น. |ถึงสนามบินเมืองเอล คาลาฟาเต (El Calafate) ในเขตจังหวัดซานตาครูซ ในเขตที่ราบสูง | |

| |รถโค้ชรอรับคณะและเดินทางสู่ภัตตาคาร | |

|14.00 น. |รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |Local |

| |ปาตาโกเนีย (Patagonia) เป็นภูมิภาคที่ตั้งอยู่ปลายใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ ครอบคลุมพื้นที่ในประเทศอาร์เจนตินาและชิลี |[pic] |

| |นักสำรวจให้สมญานามว่า ดินแดนแชงกรีลาแห่งอเมริกาใต้ ที่ที่เชื่อกันว่าผู้คนมีความสุข มีชีวิตยืนยาว | |

| |มีธรรมชาติที่สวยงามน่าอัศจรรย์ใจ กล่าวได้ว่าเป็นสวรรค์บนดินอย่างแท้จริง อิสระให้ท่านเดินเที่ยวชมเมืองเล็กๆแห่งนี้ เอล | |

| |คาลาฟาเต เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมฝั่งด้านใต้ของทะเลสาบอาร์เจนติโน โอบล้อมด้านที่เหลือด้วยทุ่งหญ้า และเทือกเขาสูงใหญ่ | |

| |สองฟากฝั่งของถนนสายหลักในหมู่บ้าน เรียงรายไปด้วยโรงแรม ร้านขายของที่ระลึก และบริษัทท่องเที่ยว | |

| |หมู่บ้านแห่งนี้เป็นเมืองหน้าด่านในการเข้าไปท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติลอส กลาซิอาเรส (Parque Nacional Los Glaciares)| |

| |บนเนินเขาเล็ก ๆ ด้านตะวันตกเป็นย่านที่อยู่ของชาวอินเดียนเผ่าอลากาลุฟ (Alacaluf) ถัดจากเนินเขา | |

| |เป็นท้องทุ่งกว้างที่ทอดตัวยาว ไปจนจรดเทือกเขาสูงตระหง่าน เป็นที่ที่เกาโช (Gaucho) โคบาลแห่งทวีปอเมริกาใต้ | |

| |หรือวีรบุรุษนักบุกเบิกแห่งอาร์เจนตินา | |

|19.00 น. |รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |Local |

| |นำท่านเข้าสู่ที่พัก ALTO CALAFATE HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |.ar |

|28 ก.พ. 61 |อุทยานแห่งชาติธารน้ำแข็งลอส กลาซิอาเรส - ธารน้ำแข็งเปริโต โมเรโน่ |พุธ |

|08.00 น. |รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |Buffet |

|09.00 น. |นำท่านสู่เขตอุทยานแห่งชาติธารน้ำแข็ง ลอส กลาซิอาเรส (Los Glaciares) แห่ง Patagonia มีพื้นที่ราว 6.000 ตร.กม. | |

| |หรือมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ ๒ ของประเทศ ที่นักท่องเที่ยวอยากไปเยือนมากที่สุด สวยมหัศจรรย์จน UNESCO ยกให้เป็น มรดกโลก |[pic] |

| |ในปี ค.ศ. 1981 นำคณะไปชมธารน้ำแข็งโมเรโน มีจุดกำเนิดอยู่บนยอดเขาที่ห่างออกไปถึง 20 ก.ม. | |

| |บริเวณส่วนปลายมีความกว้างถึง 5 ก.ม. สูงจากผิวน้ำ 74 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ธารน้ำแข็ง 1,600 ตร.กม. |[pic] |

| |ทำให้มันถูกจัดเป็นธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่โตที่สุดในซีกโลกใต้ สิ่งที่โดดเด่นคือ ภูเขาน้ำแข็งอันงดงามตระการตา | |

| |ก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาคล้ายกำแพงสีขาว | |

| |ท่านสามารถเดินชมธารน้ำแข็งได้อย่างใกล้ชิดตามใจปารถนาด้วยทางเดินไม้ที่ทอดตัวไปรอบป่าสน จนไปสิ้นสุดบริเวณหน้าผา | |

| |ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับธารน้ำแข็ง ตลอดเวลาจะได้ยินเสียงดังราวเสียงระเบิดกึกก้อง เมื่อก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่แตกตัวตกลงสู่ผืนน้ำ| |

| |"ไวท์ ไจแอนท์" แห่งอาร์เจนตินา ชื่อเรียกธารน้ำแข็งแห่งนี้เกิดการพังทลาย แนวน้ำแข็งขนาดมหึมาของโลก | |

| |เป็นการส่งสัญญาณถึงสถานการณ์โลกร้อนที่ กำลังเข้าขั้นรุนแรง | |

|13.00 น. |รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |Buffet |

|บ่าย |กิจกรรมที่ท่านรอคอยเมื่อมาเยือนปาตาโกเนีย คือ การล่องเรือชมธารน้ำแข็ง |[pic] |

| |ตื่นตาตื่นใจกับการได้เข้าสัมผัสอย่างใกล้ชิดกับธารน้ำแข็ง ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากทวีปแอนตาร์กติกา | |

| |และอลาสกา เป็นประสบการณ์อันแสนประทับ ใจที่ครั้งหนึ่งท่านได้มาเยือน | |

|19.00 น. |รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |Local |

| |นำท่านเข้าสู่ที่พัก ALTO CALAFATE HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |.ar |

|1 มี.ค. 61 |เอล กาลาฟาเต - เปอร์โต บานเดอร่า - ล่องเรือชมธารน้ำแข็งอัปซาลา |พฤหัสบดี |

|07.00 น. |รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |Buffet |

|08.00 น. |นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือเปอร์โต บานเดอร่า (Puerto Bandera Pier) อยู่ในจังหวัดซานตาครูซ |[pic] |

| |เพื่อทำกิจกรรมที่ท่านรอคอยเมื่อมาเยือนปาตาโกเนีย คือ การล่องเรือชมธารน้ำแข็ง เรือ Catamaran | |

| |อันทันสมัยนำท่านสู่ตอนเหนือของ Lake Argentino ตื่นตาตื่นใจกับการได้เข้าสัมผัสอย่างใกล้ชิดกับธารน้ำแข็ง | |

| |ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอเมริกาใต้ อยู่ใน Los Glaciares National Park อาร์เจนตินา | |

| |ท่านจะได้ชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ธารน้ำแข็งโดดเด่นตั้งอยู่ด้านหน้าขนาดมหึมา | |

| |เรือจะนำท่านเข้าไปสัมผัสอย่างใกล้ชิดแบบพาโนรามาของวิว Upsala Glacier, Spegazzini Glacier และ Seco | |

| |Glacier ประสบการณ์อันแสนประทับใจที่ครั้งหนึ่งท่านได้มาเยือน | |

|13.00 น. |รับประทานอาหารกลางวันแบบกล่อง |Lunch Box |

|15.30 น. |คณะเดินทางกลับถึงเอล กาลาฟาเต | |

|19.00 น. |รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |Local |

| |นำท่านเข้าสู่ที่พัก ALTO CALAFATE HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |.ar |

|2 มี.ค. 61 |เอล กาลาฟาเต - บินกลับสู่บัวโนสไอเรส |ศุกร์ |

|08.00 น. |รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |Buffet |

| |หลังอาหารนำคณะออกเดินทางสู่สนามบิน เอล กาลาฟาเต เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่บัวโนสไอเรส | |

|11.30 น. |รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |Local |

|14.20 น. |ออกเดินทางสู่บัวโนสไอเรส โดยสายการบิน Aerolíneas Argentinas โดยเที่ยวบินที่ AR1821 (Boeing 737-800) |(ใช้เวลาในการบิน 2 ชั่วโมง 55 นาที) |

|17.15 น. |ถึงสนามบิน Aeroparque Internacional Jorge Newbery กรุงบัวโนสไอเรส |[pic] |

| |เมืองหลวงที่ผสมผสานวัฒนธรรมใหม่และเก่าได้อย่างลงตัว และได้รับวัฒนธรรมยุโรปมาอย่างมากมาย จึงถูกเรียกว่า "ปารีสใต้" | |

| |หรือ "ปารีสแห่งอเมริกาใต้" เมืองนี้เป็นเมืองสมัยใหม่ที่สุดแห่งหนึ่งในลาตินอเมริกา โดยมีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรม ชีวิตกลางคืน| |

| |และกิจกรรมทางวัฒนธรรม บัวโนสไอเรส คือ สุดยอดเมืองสุนทรีย์แห่งลาตินอเมริกา | |

|19.00 น. |รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |Chinese |

| |นำท่านเข้าสู่ที่พัก SHERATON BUENOS AIRES HOTEL and | |

| |CONVENTION CENTER 4* หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน | |

|3 มี.ค. 61 |บัวโนส ไอเรส - อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย - เดินทางสู่สนามบิน |เสาร์ |

|08.00 น. |รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |Buffet |

|09.00 น. |หลังอาหาร แวะชมแหล่งช้อปปิ้งที่หรูหราและมีชื่อเสียงที่สุดของเมืองคือ แกลลอรี่แปซิฟิก สถาปัตยกรรมแบบบองมาเช่ในฝรั่งเศส | |

| |ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และจุดที่โดดเด่นที่สุดคือ ภาพจิตรกรรมเพดานภายในโดมขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 450 | |

| |ตร.กม. อิสระให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งร้านขายสินค้ากว่า 150 ร้าน ในพื้นที่กว่า 11,000 ตร.ม. | |

|11.30 น. |ออกเดินทางสู่สนามบินนานาชาติมินิสโตร ปิสตารินี เพื่อเตรียมเดินทางกลับสู่ประเทศไทย | |

|14.50 น. |สายการบินแอร์ฟรานซ์ ออกเดินทางสู่มหานครปารีส โดยเที่ยวบินที่ |(ใช้เวลาบินรวม 14.50 ชั่วโมง) |

| |AF229 | |

|4 มี.ค. 61 |สนามบินชาร์ล เดอร์ โกลด์ (ปารีส) - รอเปลี่ยนเที่ยวบิน |อาทิตย์ |

|08.00 น. |ถึงสนามบินชาร์ล เดอร์ โกลด์ (ประเทศฝรั่งเศส) เพื่อรอเปลี่ยนเที่ยวบิน |(ใช้เวลาบินรวม 16.15 ชั่วโมง) |

| |***สำหรับท่านที่ต้องการออกไปข้างนอกสนามบิน ผู้โดยสารจำเป็นต้องมีวีซ่าเชงเก้นที่มีอายุใช้งานได้อยู่ในเล่ม*** | |

|16.15 น. |ออกเดินทางโดยสายการบินแอร์ฟรานซ์ โดยเที่ยวบินที่ AF166 |(ใช้เวลาบิน 16.15 ชั่วโมง) |

|6 มี.ค. 61 |สนามบินสุวรรณภูมิ |จันทร์ |

|09.15 น. |นำท่านเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ | |

|กำหนดการเดินทาง |

|Period |Tour Fare |Child 4-11 |Child 4-6 |SGL Supp |No Ticket |

| |Adults |With Bed |No Bed | |Adult / Child |

|ค่าทัวร์รวม : |

| |ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับสายการบินแอร์ฟรานซ์ และสายการบินภายในประเทศ รวมค่าภาษี และส่วนเพิ่มของน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 |

| |ค่ารถโค้ชมาตรฐานสหรัฐอเมริกา ท่องเที่ยวตามโปรแกรมที่ระบุ |

| |15-19 ท่าน ใช้รถปรับอากาศขนาด 25 ที่นั่ง |

| |20-35 ท่าน ใช้รถปรับอากาศขนาด 55 ที่นั่ง |

| |ค่าเข้าชมสถานที่ตามที่ระบุในรายการ |

| |ค่าโรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว หรือ เทียบเท่าในระดับราคาเดียวกัน โดยพักเป็นห้องแบบ Twin / Double ในกรณีที่ท่านจองห้องพักแบบ 3 เตียง (Triple) |

| |บางโรงแรมอาจจัดเป็นเตียงเสริมแทน และอาจมีการเปลี่ยนย้ายเมืองพัก หากวันดังกล่าวมีการจัดประชุมนานาชาติ (Trade Fair) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว |

| |ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ คัดสรรเมนูและให้ท่านได้เลิศรสกับอาหารท้องถิ่นในแต่ละแห่ง |

| |ค่าทิปพนักงานขับรถโค้ชท่องเที่ยวตามโปรแกรมที่ระบุ |

| |ค่าประกันการเดินทางของ บริษัท เอ ดับเบิลยู พี เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) แบบ OASIS TRIPPER PLAN คุ้มครองการสูญเสียชีวิต/อวัยวะจากอุบัติเหตุ |

| |สำหรับผู้เอาประกันภัยอายุมากกว่า 16 ปีน้อยกว่า 75 ปี ไม่เกิน 3,000,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศไม่เกิน 2,000,000 บาท |

| |ทั้งนี้ครอบคลุมถึงประกันสุขภาพที่ไม่ได้เกิดจากโรคประจำตัว |

| |–หากมีความประสงค์จะเพิ่มความคุ้มครองในกรณีสัมภาระในการเดินทางสูญหายตลอดจนความล่าช้าของสัมภาระและเที่ยวบินกรุณาสอบถามโปรดศึกษาจากรายละเอียดของกรมธรรม์ตามเอกสาร|

| |แนบท้ายใบจองทัวร์ |

| |ค่ายกกระเป๋าใบใหญ่ท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 30 กิโลกรัม ส่วนกระเป๋าใบเล็กอยู่ในความดูแลของท่านเองไม่เกิน 7 กิโลกรัม |

| |สำหรับสายการบินภายในประเทศ อนุญาตให้โหลดสัมภาระใต้เครื่องได้ไม่เกิน 20 กิโลกรัม/ใบ โหลดได้ท่านละ 1 ใบเท่านั้น และนำสัมภาระถือขึ้นเครื่องน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม |

| |การเรียกค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฏิเสธได้ | ................
................

In order to avoid copyright disputes, this page is only a partial summary.

Google Online Preview   Download